แพคซาร่า (paxara-sm-image)

แพคซาร่า ขนาด 500ซีซี
ชื่อสามัญ: 1ลูเฟนนูรอน (lufenuron)
ทะเบียนวัตถุอันตรายเลขที่ : 713-2562
(ทะเบียนหมดอายุวันที่ 8 ธันวาคม 2568)
กลุ่มสารเคมี : Benzoylurea [กลุ่ม 15]

จุดเด่น แพคซาร่า แพคซาร่า ปราบหนอนทุกวัย ใบข้าวสวยงาม เป็นสารกำจัดแมลงโดยยับยั้งการลอกคราบของหนอน กำจัดได้ทั้งระยะไข่ และหนอนทุกระยะ ระยะปลอดฝนสั้น 1 ชั่วโมง อัตราการใช้น้อย

พืชปลูก และอัตราการใช้ ข้าว หนอนห่อใบข้าว
อัตรา : ใช้อัตรา 10 มิลลิลิตร ต่อน้ำ 20 ลิตร
วิธีการ : พ่นให้ทั่วเมื่อพบใบข้าวถูกทำลายจากหนอนห่อใบข้าว มากกว่า 15%
(อัตราการใช้น้ำ 40 ลิตรต่อไร่ในข้าวอายุไม่เกิน 40 วัน และ 60ลิตรต่อไร่ ในข้าวอายุเกิน 40 วัน)

คะน้า หนอนกระทู้ผัก
อัตรา : ใช้อัตรา 20 มิลลิลิตร ต่อน้ำ 20 ลิตร
วิธีการ : พ่นให้ทั่วเมื่อพบการระบาดของหนอนกระทู้ผักในคะน้า

วิธีเก็บรักษาและคำเตือน ข้อความแสดงข้อควรระวัง

วิธีเก็บรักษา : ต้องเก็บ แพคซาร่า ในภาชนะเดิมที่ปิดแน่น มีฉลากติดอยู่ และไม่ให้ถูกแสงแดด สถานที่เก็บต้องแห้งและเย็น ห่างไกลจากเด็ก อาหาร น้ำดื่ม สัตว์เลี้ยง และเปลวไฟ
คำเตือน : แพคซาร่า เป็นวัตถุอันตราย ต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง เพื่อป้องกันมิให้เป็นอันตรายต่อผู้ใช้และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ผู้ใช้ต้องปฏิบัติดังนี้ :
1. ห้าม ดื่มน้ำ กินอาหาร หรือสูบบุหรี่ในขณะปฏิบัติงาน ห้าม เทสารที่เหลือหรือล้างภาชนะบรรจุ อุปกรณ์ เครื่องพ่นสารลงในแม่น้ำ ลำคลอง หรือบริเวณใกล้เคียง เมื่อใช้สารฯ หมดแล้ว ห้าม ใช้ไฟเผาภาชนะบรรจุ หรือนำกลับไปใช้อีก ห้าม เด็กและผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในบริเวณที่กำลังพ่นสาร
2. ขณะผสม ต้อง สวมถุงมือยาง และหน้ากากเพื่อป้องกันมิให้สารเข้มข้นถูกผิวหนัง และกระเด็นเข้าตา การผสมให้ใช้ไม้กวน ขณะพ่นสาร ต้อง อยู่เหนือลมเสมอ และ ควรสวมถุงมือยาง และหน้ากาก ต้อง ล้างมือและล้างหน้าให้สะอาดด้วยสบู่ และน้ำก่อนกินอาหาร ดื่มน้ำ หรือสูบบุหรี่ หลังจากทำงานเสร็จแล้ว ต้อง อาบน้ำ สระผม ปลี่ยนเสื้อผ้า และซักชุดที่สวมทำงานให้สะอาด ภาชนะบรรจุเมื่อใช้หมดแล้วให้กลั้วล้างด้วยน้ำ 3 ครั้ง และรวม เอาน้ำล้างไปใช้ผสมพ่นสาร กำจัดภาชนะบรรจุ โดยทำลายแล้วฝังดิน หรือรวมทิ้งให้ปลอดภัย
3. ระวัง อย่าให้เข้าปาก ตา จมูก หรือถูกผิวหนังและเสื้อผ้า ระวัง ความเป็นพิษของสารต่อพืชอื่นๆ ที่ปลูกร่วม ปลูกใกล้เคียง หรือปลูกตามหลัง
4. การใช้สารกำจัดแมลงซึ่งอยู่ในอักษรกลุ่มเดียวกัน ติดต่อกันเป็นเวลานานอาจก่อให้เกิดความต้านทานของแมลง
5. อาจทำให้เกิดอาการแพ้ทางผิวหนัง กลมุ่ 15 สารกำจดั แมลง
6. ห้ามเก็บเกี่ยวข้าว ภายใน 30 วัน หลังจากพ่นสารครั้งสุดท้าย ห้ามเก็บเกี่ยวคะน้า ภายใน 7 วัน หลังจากพ่นสารครั้งสุดท้าย
อาการเกิดพิษ : 1. ผู้ได้รับพิษทางปากจะเกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง และท้องร่วง
การแก้พิษเบื้องต้น :
1. ถ้าเกิดอาการพิษเนื่องจากการสูดดม รีบนำผู้ป่วยออกจากบริเวณที่ใช้ และให้พักผ่อนในที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก หากอาการไม่ทุเลา รีบไปพบแพทย์
2. ถ้าเข้าตาให้รีบล้างออกด้วยน้ำสะอาดจำนวนมากนาน 15 นาที หากอาการไม่ทุเลา รีบไปพบแพทย์
3. ถ้าถูกผิวหนังให้ล้างออกด้วยสบู่ และน้ำจนสะอาด ถ้าเปื้อนเสื้อผ้าให้รีบอาบน้ำ และเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ทันที
4. ถ้าเป็นกรณีกลืนกินเข้าไป ห้าม ทำให้อาเจียน และ ห้าม ให้น้ำ เครื่องดื่ม หรืออาหารใดๆ ทั้งสิ้น รีบนำผู้ป่วยส่งแพทย์ทันทีพร้อมภาชนะบรรจุและฉลาก
คำแนะนำสำหรับแพทย์ :
1. รักษาตามอาการ
2. หากกลืนกินเข้าไปจำนวนมากให้ล้างท้องแล้วตามด้วย activaed charcoal 25 g ผสมน้ำ 300 ml และ sorbitol 70% 1-2 ml/kg น้ำหนักตัว (เด็กต่ำกว่า 12 ปี ลดขนาดเป็น sorbitol 35% 1.5-2.3 ml/kg น้ำหนักตัว) สารป้องกันกำจัดศัตรูพืชอาจก่อให้เกิดอันตรายหากใช้ไม่ถูกต้อง โปรดอ่านคำเตือนและปฏิบัติตนตามคำแนะนำบนฉลากอย่างเคร่งครัด
Scroll to Top